วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

นามะช็อกโกแลต (Nama Chocolate)

เป็นคนที่ชอบกินช็อคโกแลต อยากจะลองทำเองงดูบ้าง เลยลองหาวิธีทำเมนูไหนที่ง่ายๆดูจนไปเจอของรายการ CIY - cook it yourself EP9 ซึ่งเป็นเทปที่ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ ซึ่งวิธีทำนั้นง่ายแสนง่ายอีกทั้งยังมีอุปกรณ์น้อยชิ้น เหมาะสำหรับคนที่เริ่มหัดทำ มาเริ่มกันเลยค่ะ

อุปกรณ์
• พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 7.5x7.5 นิ้ว
• กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์
ส่วนผสม
• วิปปิ้งครีม 150 กรัม
• กลูโคส 15 กรัม
• ดาร์กช็อกโกแลต 58% 250 กรัม
• เนยสดชนิดจืดนุ่ม 20 กรัม
• เหล้ากรองมาร์เนีย 15 กรัม
• ผงโกโก้สำหรับโรย
ขั้นตอน
1. เตรียมพิมพ์โดยปูกระดาษไขด้านในพิมพ์โดยให้กระดาษไขสูงกว่าขอบพิมพ์ประมาณ 1 นิ้ว นำวิปปิ้งครีมและกลูโคสใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ปิดไฟ ยกลง ใส่ดาร์กช็อกโกแลต พักไว้ 5 นาที
2. ใส่เนยลงในหม้อช็อกโกแลต แล้วคนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่เหล้ากรองมาร์เนีย คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงจนช็อกโกแลตเซ็ตตัว
3. นำช็อกโกแลตออกจากตู้เย็น ใช้มีดชุบน้ำอุ่นหมาดๆ เช็ดให้แห้ง ตัดช็อกโกแลตเป็นชิ้นขนาดเท่ากัน โรยผงโกโก้ด้านบน
***สูตรนี้จะนามะช็อกโกแลต (Nama Chocolate) ประมาณ 25-30 ชิ้น***
  http://pantip.com/topic/31624105


 
 
 
 
 
 

 


 
 
 

แบบฝึกหัดบทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

แบบฝึกหัดบทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม                                กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                        รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ-สกุล น.ส.ศิวาพร  ชมภูทัศน์                                                                  รหัส 57010912583

คำชี้แจง จงพิจารณากรณีศึกษานี้
1) “นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์
สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่
เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง” การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
  ตอบ ผิดกฎหมายและจริยธรรมเพราะการกระทำดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาตจากนาย A ซึ่งเป็นคนเขียนโปรแกรม เพราะการดาวน์โหลดโปรแกรมทางอินเทอร์เน็ตมาใช้งานแบบถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ก็ต่อเมื่อโปรแกรมที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดมาใช้นั้นถูกระบุว่าเป็นประเภท Freeware,Shareware

2."นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจเพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐานอ้างอิงจากตำราต่างๆอีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อสนุกสนานไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆเด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J"การกระทำอย่างนี้เป็นผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆหรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใดและหากผิดผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
  ตอบ ผิดกฎหมายและจริยธรรม ถ้าการกระทำดังกล่าวไม่ได้อ้างอิงแหล่งที่มา เพราะหากต้องทำการ copy รูปภาพหรือข้อความบนเว็บไซต์ของผู้อื่นมาใช้งาน จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าของเสียก่อน เพราะหากนำมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ผิดกฎหมาย หากนำไปใช้เพื่อการค้าอาจถูกฟ้องเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาได้ อย่างไรก็ตามก็มีข้อยกเว้นสำหรับกรณีเพื่อการศึกษาโดยต้องมีการอ้างอิงและขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์

แบบฝึกหัดบทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

แบบฝึกหัดบทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ                                                     กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                        รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ-สกุล น.ส.ศิวาพร  ชมภูทัศน์                                                                  รหัส 57010912583

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้1.หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall) คือ
  ตอบ คือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่าย หน้าที่ของไฟร์วอลล์คือเป็นตัวกรองข้อมูลสื่อสาร โดยกำหนดกฎและระเบียบมาบังคับใช้โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลระบบเครือข่าย โดยความผิดพลาดของการปรับแต่งอาจส่งผลทำให้ไฟร์วอลล์มีช่องโหว่ และนำไปสู่สาเหตุของการโจรกรรมข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้
2.จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm , virus computer , spy ware , adware มาอย่างน้อย 1 โปรแกรม
  ตอบ ไวรัส คือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูลไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน
3.ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
  ตอบ มี 2 ชนิด
           1.Application Viruses
           2.System Viruses
4.ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ
  ตอบ 1.สแกนหาไวรัสจากสื่อบันทึกข้อมูลก่อนใช้งานทุกครั้ง
          2.สำรองข้อมูลที่สำคัญไว้เสมอ
          3.ไม่ควรใช้สื่อข้อมูลที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
          4.อัปเดตข้อมูลของโปรแกรมทุกวัน
          5.ติดตั้งโปรแกรมไวรัสที่เหมาะสม
5.มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน ได้แก่
  ตอบ 1.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น
          2.ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
          3.ต้องไม่สอดแนมหรือแก้ไขเปิดดูในแฟ้มของผู้อื่น
          4.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
          5.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ

แแบบฝึกหัดบทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน

แแบบฝึกหัดบทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน                                กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                        รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ-สกุล น.ส.ศิวาพร  ชมภูทัศน์                                                                  รหัส 57010912583

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เทศโนโลยี
3. สารสนเทศ
4. พัฒนาการ
  ตอบ 4.พัฒนาการ

2. เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
4. การพยากรณ์อากาศ
ตอบ 2.ระบบการเรียนการสอนทางไกล

3. การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
1. ระบบอัตโนมัติ
2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ
4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ตอบ 2.เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย

4. ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
3. การติดต่อข้อมูลทางเครือข่าย
4. ถูกทุกข้อ
   ตอบ 4.ถูกทุกข้อ

5. เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
2. ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
4. การนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
ตอบ 1.การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์

6. เครื่องมือที่สำคัญในการในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
2. สารสนเทศ
3. คอมพิวเตอร์
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4.ถูกทุกข้อ

7. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่อมผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ้มประสิทธิภาพในการทำงาน
2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเปลี่อนสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน หรือสอบถามผลสอบได้
3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้บุคคลทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
ตอบ 4.เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างพักอาศัยที่มีคุณภาพ

8. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
1. เครื่องถ่ายเอกสาร
2. เครื่องโทรสาร
3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
4. โทรทัศน์ วิทยุ
ตอบ 1.เครื่องถ่ายเอกสาร

9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกียวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานธุรกิจ
2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ตอบ 3.ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

10. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
3. ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4.ถูกทุกข้อ

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แนะนำกล้อง ดิจิตอล สำหรับมือใหม่

เนื่องจากตัวดิฉันเองมีความสนใจเรื่องกล้องและชื่นชอบการถ่ายภาพ แต่เนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้จึงได้ทำการศึกษา หาข้อมูลของกล้อง ประสิทธิ์ภาพ ฟังก์ชั่นเสริม ราคา และอีกมากมาย ของแต่ละรุ่น ยี่ห้อ เพื่อเก็บเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อ
อันดับแรกเราต้องรู้จักตัวกล้อง รู้ว่าต้องการภาพแลลไหน แบบไหนเหมาะกับมือใหม่อย่างเรา มีงบเท่าไร จะเล่นตัวไหนได้บ้าง โดยส่วนตัวคิดว่าข้อมูลพวกนี้สำคัญมากที่เราต้องรู้เป็นอันดับต้นๆก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเลยล่ะค่ะ
เช่น ต้องการกล้องถ่ายง่าย ภาพคม มีไวไฟในตัว พกสะดวก  ราคาไม่เกิน 15,000- 25,000 ก็จะมี
Fujifilm X-A2
Sony A5100
Canon EOS M10
SONY NEX-5T
PANASONIC GF-6
PANASONIC GM-1
FUJI X-A1
มีอีกเยอะเลย และแต่ละรุ่น ละยี่ห้อ ก็จะมีลูกเล่น ดีไซน์ ขนาดและฟังก์ชั่นเสริมต่างๆที่แตกต่างกันออกไป
    ***ศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะค่ะจะได้ไม่ผิดหวัง***











***อ้างอิงข้อมูล
https://medium.com/@torcnn/%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-mirrorless-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B52016-by-torcnn-6ec545f2ea13#.itzbefhuw

http://pantip.com/topic/31709543

สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

 
บทความนี้จะพูดถึงสุนัขพันธุ์ที่ดิฉันร่วมถึงใครหลายๆคนที่ชื่นชอบสุนัขกัน นั้นก็คือ พันธุ์ปมเมอเรเนียนหรือเรียกสั้นๆว่า "ปอม" นั้นเอง ด้วยความที่มันน่ารัก ตัวเล็กๆ ขาสั้นๆ แถมยังมีนิสัยที่ขี้เล่น ขี้อ้อน ซนๆ ไม่ดุ เด็กเล็กๆก็สามารถเล่นกับมันได้
ราคาแต่ละตัวไม่เท่ากัน  ขึ้นกับสายเลือด และเกรด รวมทั้งลักษณะ ไซต์ และสีค่ะ และความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย แต่โดยเฉลี่ย  ถ้าปอมคุณภาพ เกรดเลี้ยงเล่นๆ  หลักหมื่น 
ตอนเล็กๆ น่ารักหมด  จะเปลี่ยนไปตามวัยและเวลา  ศึกษาให้ดีๆ และเลือกที่สุขภาพดีด้วยนะคะ
แนะนำให้ดูด้วยตัวเองที่ฟาร์ม ช่วงนี้มิจฉาชีพเยอะ จะซื้อควรศึกษาลักษณะสายพันธุ์ก่อนซื้อค่ะ
 
ปอมเมอเรเนียน หรือที่บางครั้งเรียกสั้น ๆ ว่า ปอม เป็นสุนัขที่อยู่ในตระกูลสปิตซ์ ชื่อของพันธุ์นี้มาจากพอเมอเรเนียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโปแลนด์และประเทศเยอรมนีตะวันออก
ช่วงชีวิต: 12 ถึง 16 ปี
อุปนิสัย: ขี้เล่น, เป็นมิตร, เปิดเผย, กระฉับกระเฉง, แสนรู้, ชอบเข้าสังคม
สี: สีดำ, สีขาว, เฉดสีเทา, สีน้ำตาล, สีแทน, สีส้ม
 
 
 
{pic-alt} ลักษณะทั่วไป

     สุนัขปอมเมอเรเนียนหรือเรียกสั้นๆ ว่า น้องปอมอยู่ในกลุ่ม Toy Group มีขนาดกระทัดรัด หลังสั้น ขนชั้นล่างอ่อนนุ่ม แน่นทึบ ขนชั้นนอก ยาว ฟู มีมาก ค่อนข้างหยาบ ตำแหน่งโคนหางสูง ขนหางแน่น เป็นพวง หางวางราบบนหลัง ปอมส่วนใหญ่ ท่าทางตื่นตัว ร่าเริง อยากรู้อยากเห็น แสดงความฉลาดให้เห็นได้เสมอ มีย่างก้าวที่คล่องแคล่ว สง่างาม และมั่นคง
 
{pic-alt} ความเป็นมา

     บรรพบุรุษของน้องปอมย้อนกลับไปถึงยุคก่อนคริสตกาล พบภาพวาดในแผ่นหินและรูปหล่อสัมฤทธิ์ตามโลงศพที่พบในอียิปต์ พบโครงกระดูกสุนัขพันธุ์เล็กคล้ายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ในอุโมงค์ที่บรรจุศพสมัยโบราณของชาวอียิปต์

     เชื่อกันว่า ปอมเมอเรเนียนได้รับการพัฒนาให้เป็นน้องปอมในปัจจุบัน ครั้งแรกที่เมืองปอมเมอเรเนีย ประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในยุโดรเหนือแถบทะเลบอลติก ดินแดนกว้างใหญ่จากตะวันตกของเกาะรูเกนถึงแม่น้ำวิทูลา ที่แห่งนี้มีการเลี้ยงสุนัขอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อให้เป็นสัตว์และเพื่อให้เป็นสุนัขอารักขา ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดจากพันธุ์สปิทซ์ในสมัยโบราณ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมเมอเรเนียนพัฒนาจากสุนัขพันธุ์ซามอยด์

     ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศรัสเซียแถบไซบีเรีย บางคนเชื่อว่าพัฒนามาจากสุนัขป่า ซึ่งอาศัยอยู่ตามถ้ำในประเทศเยอรมัน และถูกนำมาใช้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะในทวีปยุโรปตอนกลางและตอนล่าง นำมาพัฒนาในยุโรปเพื่อช่วยในการเลี้ยงแกะ ซึ่งบรรพบุรุษของปอมฯ น่าจะมีน้ำหนักมากถึง 30 ปอนด์ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมฯ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีซ โดยอ้างหลักฐานจากภาพวาดสมัยโบราณหลายภาพที่มีอายุ 400 ปีก่อนคริสตกาล หรือเกือบประมาณ 2500 ปีมาแล้ว มีภาพของสุนัขขนาดเล็กที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนสุนัขปอมฯ ในปัจจุบัน คือ Stop ที่เด่นชัด ช่วงปากแหลม หูสั้น ลักษณะการเดินและการแสดงออกเหมือนกับที่พบได้ในปัจจุบันทุกประการ ยกเว้นแต่ตำแหน่งของหางที่อยู่ต่ำเกินไปเท่านั้น

     แสดงว่าสุนัขพันธุ์ปอมนี้มีขนาดเล็กมากตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ไม่ใช่เพิ่งพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมาตามที่มีคนในประเทศอังกฤษอ้างเสมอ ประมาณปี 1800 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ทรงมีความชื่นชอบในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนและส่งสุนัขของพระองค์ลงประกวด ทำให้เกิดความนิยมปอมเมอเรเนียนอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ และเพราะความที่พระองค์โปรดปรานสุนัขที่มีขนาดเล็ก

     ผู้เพาะพันธุ์หลายคนเริ่มที่จะคัดสุนัขที่มีขนาดเล็ก ปัจจุบันปอมฯ ที่เราเห็นอยู่มีขนาดที่เล็กลงจากปอมฯ ที่เป็นต้นตำรับ 4-5 ปอนด์ ความฉลาดและความสามารถของปอมฯ ทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นพระเอกในคณะละครสัตว์อย่างต่อเนื่อง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเยอรมัน นิยมเลี้ยงกันเป็นฝูง บางแห่งทำเป็นสุนัขลากเลื่อนก็มี ปอมฯ เข้าสู่อังกฤษช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น มีการตั้งชมรมคือ English Pomeranian Club ในปี 1891 ภายหลังสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียทรงออกงานพร้อมสุนัขพันธุ์นี้บ่อยครั้ง ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
 
 

สุขภาพ

พอเมอเรเนียนโดยทั่วไปจะแข็งแรง ทรหด และมีสายพันธุ์ที่อายุยืน — พอเมอเรเนียนมักจะมีอายุตั้งแต่ 12 ถึง 14 ปีโดยประมาณ
ปัญหาที่มักพบบ่อยในพอเมอเรเนียนคือ Luxating patella เช่นเดียวกับ Legg-Calvé-Perthes syndrome และ Hip dysplasia สามารถเกิดขึ้นได้แต่จะพบน้อยกว่าในสายพันธุ์เล็ก Patent ductus arteriosus (โรคหัวใจ) และ Tracheal collapse ได้กลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับพอเมอเรเนียน ตาแห้ง, ท่อน้ำตาผิดปกติและโรคต้อซึ่งสามารถเกิดขึ้นในวัยเล็กและบ่อยครั้งที่ทำให้ตาบอด โรคผิวหนังเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยโดยเฉพาะการแพ้ (ซึ่งบ่อยครั้งนำไปสู่โรคผิวหนังอักเสบอย่างรุนแรง) และ Follicular dysplasia ปัญหาอื่น ๆ ที่มักเกิดเป็นประจำรวมไปถึง Hypothyroidism, Epilepsy และ Hypoglycemia ในบางโอกาส Hydrocephalus สามารถเกิดขึ้นในพอเมอเรเนียนตอนยังเล็ก ๆ พอเมอเรเนียนเหมือนกับสายพันธุ์ทอยอื่น ๆ คือจะมีแนวโน้มที่มีฟันไม่ดีและการจามเข้าอย่างต่อเนื่องที่ไม่เป็นอันตราย

เคล็ดลับการทำความสะอาด

การดูแลขนของปอมเมอเรเนียนคล้ายกับพันธุ์ปักกิ่ง การแปรงขนทุกวันหรืออาทิตย์ละสองครั้งเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะให้ขนที่หนาและสวยไม่พันกัน ขนของพอเมอเรเนียนต้องการการเล็มบ้างแค่ครั้งคราว การหวีนั้นไม่ค่อยจำเป็นและในบางครั้งไม่จำเป็นเลย การดูแลหูและเล็บเป็นประจำเป็นสิ่งที่แนะนำรวมกับการอาบน้ำในช่วงกลางฤดู อย่างไรก็ตาม ไม่ควรอาบน้ำให้พอเมอเรเนียนบ่อยมากเกินไปเพราะการอาบน้ำบ่อยจะทำให้หนังและขนเสียหาย เพราะน้ำมันที่จำเป็นถูกล้างออกไป พอเมอเรเนียนมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน ดังนั้นจึงแนะนำให้แปรงฟันให้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยจริง ๆ แล้วควรจะแปรงทุกวัน

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99














https://www.google.co.th/search?tbm=isch&tbs=rimg%3ACR_1s6AyvEndXIjiUTbI5OPXIARDGW5JJTkencqH1ZpU_1HgFqTLS7jz5aIGF_1Mpb6hikSryvxHrUTpCgody4gWpE25CoSCZRNsjk49cgBEcWSn7NaB2fwKhIJEMZbkklOR6cRXBydsvspOsIqEglyofVmlT8eARFf2QaH3JmOxCoSCWpMtLuPPlogEU74Yxbio76RKhIJYX8ylvqGKRIRAnK9ZSiPoeEqEgmvK_1EetROkKBFfADsyBiqrpyoSCSh3LiBakTbkERvXXJM5XzLE&q=%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%82%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99&ved=0ahUKEwihttf4_7bNAhUfTI8KHU-bCDUQ9C8ICQ&dpr=1&biw=1366&bih=673

 

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัดบทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ



แบบฝึกหัดบทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ                                                                   กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                        รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ-สกุล น.ส.ศิวาพร  ชมภูทัศน์                                                                  รหัส 57010912583

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ
ตอบ  การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การทำกิจกรรมหลักต่างๆ ในการจัดหา การจัดโครงสร้า การควบคุม ผลิต การเผยเเพร่และการใช้สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์การทุกประเภทอย่างมีประสิทธิผล ซึ่งสารสนเทศในที่นี้หมายถึงสารสนเทศทุกประเภทที่มีคุณค่าไม่ว่าจะมีเเหล่งกำเนิดภายในหรือภายนอกองค์การ
        การจัดการสารสนเทศ หมายถึง กระบวนการดำเนินงาน เช่น ทำดรรชนี การจัดหมวดหมู่ การจัดเเฟ้มการทำรายการเพื่อการเข้าถึงเอกสารหรือสรสนเทศที่มีการบันทึกไว้ในรูปเเบบต่างๆตั้งแต่จดหมายเหตุ(Archive)เชิงประวัติ ถึงข้อมูลดิจิทัล
        การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การดำเนินการกับสารสนเทศในระดับองค์การ ได้เเก่ การวางเเผนการ จัดสรรงบประมาณ การจัดโครงสร้างองค์การ การจัดเจ้าหน้าที่ การกำหนดทิศทาง การฝึกอบรม และการควบคุมสารสนเทศ
        กล่าวโดยสรุป คือ การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การผลิต การจัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยเเพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสรสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การโดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพราะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้นมินนโยบาย หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในการจักการสารสนเทศ

2. การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร
ตอบ  ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อบุคคล
           ในด้านการดำรงชีวิตประจำวัน การศึกษาและการทำงานประกอบอาชีพ ต่างๆ การจัดการสารสนเทศอย่างเป็นระบบ โดยการจัดทำฐานข้อมูลส่วนบุคคลรวบรวมทั้งข้อมูลการดำรงชีวิต การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่างๆ ในการดำรงชีวิตประจำวันบุคคลย่อมต้องการสารสนเทศหบายด้านเพิื่อใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น มีความก้าวหน้า และมีความสนุข อาทิต่องการสารสนเทศเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ ต้องจัดการค่าใช้จ่ายในครอบครัว ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล การดูแลอาคารที่อยู่อาศัยต่างๆ ตลอดจนการเลี้ยงดูคนในครอบครัวให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถที่ทำคุณประโยชน์แก่สังคม จึงจำเป็นต้องคัดกรองกสารสนเทศที่มีอยู่มากมายจากหลายเเหล่งเพิ่มจัดเก็บ จัดทำระบบ และเรียกใช้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วความสำคัญในด้านการศึกษา การจัดการสารสนเทศด้านระบบการศึกษา เอื้ออำนวยให้บุคคลสามารถเลือกระบบการศึกษา การเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับบถคคลแต่ละคน สามารถเรียนรู้และศึกษาได้ตลอดเวลาตามความสนใจเฉพาะตน โดยไม่จำเป็นต้องสอบเข้าศึกษาตามสถาบันการศึกษาที่จัดระบบที่มีชั้นเรียนตลอดไป บุคคลสามารถเลือกศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษา ตืดต่อกับสถานศึกษาในระะบเปิดหรือเรียนทางระบบออนไลน์ และเลือกเรียนได้ทุกระดับการศึกษา ทุกวัย นับเป็นปรัชญาการศึกษาตลอดชีวิต ความสำคัญในด้านการทำงาน บุคคลจำเป็นต้องใช้สารสนเทศทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์การ ภาระหน้าที่ ประกอบการทำงานทั้งระดับรริหารและระดับปฏิบัติการการจัดเก็บสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบตามภารกิจส่วนตน ช่วยสนับสนุนให้สามารถทำงานให้ประสบความสำเร็จได้ทันการณ์ ทันเวลา
ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อองค์กร
          การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่องค์กรการในด้านการบริหารจัดการ การดำเนินงาน และกฏหมาย ดังนี้
1)ความสำคัญด้านการบริหารจัดการ การบริหารจัดการในยุคโลกาภิวัตน์เป็นการบริหารภายใต้สภาวะที่มีการเปลี่ยนเเปลงอย่างรวดเร็ว และมีการเเข่งขั้นกันทางธุรกิจสูง ผู้บริหารต้องอาศัยสารสนเทศที่เกี่ยวข้องทั้งกับสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์การ เพื่อวิเคาะห์ปัญหา ทางเลือกในการแก้ปัญหาการตัดสินใจ ากรกำหนดทิศทางขององค์การ ให้สามารถเเข่งขันกับองค์การคู่เเข่งต่างๆ จึงจำเป็นต้องได้รับสารสนเทศที่เหมาะสม ถูกต้อง ครบถ้วน ทันการณ์ และทันสมัย เพื่อใช้ประกิบภารกิจตามหน้าที่ ตามระดับการบริหาร การจัดการสารสนเทศจึงนับว่ามีความสำคัญ ความจำเป็นที่ต้องมีการออกเเบบระบบการจัดการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ การเลือกใช้เครื่องมือ เทคโนโลยี รวมทั้งกำหนดนโยบาย ากระบวนการและกฏระเบียบ เพื่อจัดการสารสนเทศให้เมาะกับสภาพการนำสารสนเทศไปใช้ในการบริหารงาน ในระดับต่างๆไม่ว่าจะเป็ระดับต้นหรือปฏิบัติการ ระดับกลาง และระดับสูง ให้สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
2)ความสำคัญด้านการดำเนินงาน สารสนเทศนับมีความสำคัญต่อการดำเนินงานในหลายลักษณะเป็นทั้งการเพิมประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงานและหลักฐานที่บันทึการดำเนินงานในด้านต่างๆ ตามที่หน่วยงานดำเนินการ การจัดการสารสนเทศช่วยให้การใช้สารสนเทศเพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามกระเเสงานหรือขึ้นตอน จึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงาน เอื้อให้เข้าถึงและใช้สารสนเทศได้อย่างสะดวก การเป็นหลักฐานที่บันทึกการดำเนินงานเช่น กัญญาการตกลงลงนามร่วมกิจการระหว่าองค์การ รายงานทางการเงินประจำปี เป็นต้น เป็นารสนเทศที่ช่วยหน่วยงานผลิตและใช้ประกอบการดำเนินงานตาม ภาระหน้าที่ ตามข้อกำหนด ระเบียบ และแนวปฏิบัติในองค์การ สารสนเทศเหล่านี้ต้องมีการรวบรวม ประมวล และจัดอย่างเป็นระบบเพิ่มให้มีความเป็นปัจจุบัน ถูกต้อง ครบถ้วนและเหมาะสมกับงานนั้น และในการจัดการสารสนเทศทีแม้สิ้นสุดกระบวนการปฏิบัติงานแล้ว โดยเฉพาะสารสนเทศที่มีคุณค่า ยังต้องมีการจัดเก็บเป็นจดหมายเหตุเพื่อการใช้ประโยชน์
3)ความสำคัญด้านกฏหมาย การจัดสรรสารสนเทศเพื่อการดำเนินงาน จำเป็นต้องสอดคล้องกับกฏหมาย กฏ ระเบียบและข้อบังคับทั้งในระดับภายในและภายนอกองค์การ โดยเฉพาะสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการเงินและบัญชีที่ต้องรวบรวมจัดเก็บอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ รวมทั้งมีการตรวจสอบความถูกต้องทั้งจากน่วยงานภายในองค์การ หรือจากหน่วยงานภายนอกตามกฏหมาย เช่น ผู้ตรวจสอบความถูกต้องทั้งจากหน่วยงานราชการ เช่น กรมสรรพากร การมสรรพสามิต และหน่วยงานเอกชน เป็นต้อน เพื่อเป็นการเเสดงสถานะทางการเงินขององค์การอย่างถูกต้อง และเป็นไปตรมกฏหมายและข้อบังคับต่างๆ อย่างครบถ้วน ท้งนี้ เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามกฏหมายหรือระเบียบข้อบังคับต้องมีบทลงโทษ

3. พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง
ตอบ  พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศเเบ่งออกเป็น 2 ยุค ได้เเก่
1) การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ
2) การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์

4. จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง
ตอบ  1. การใช้บริการ ฝาก-ถอนเงิน ผ่านตู้ ATM
       2. การใช้โทรศัพท์เคลือนที่ หรือ โทรศัพท์มือถือในการติดต่อสื่อสาร
       3. การเล่นอินเตอร์เน็ต
 
 

แบบฝึกหัดบทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ


แบบฝึกหัดบทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ                                                             กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                   รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ -สกุล น.ส.ศิวาพร  ชมภูทัศน์                                                            รหัส 57010912583
คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด
แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับเพื่อน
1) การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
ตอบ  Floppy Disk , DVD , Blu-ray Disc
2) การแสดงผล
ตอบ  จอมอนิเตอร์ , เครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ , เครื่องพิมพ์
3) การประมวลผล
ตอบ  CPU , RAM , Software
4) การสื่อสารและเครือข่าย
ตอบ  อินเตอร์เน็ต , โทรทัศน์ , วิทยุ

2. ให้นิสิตนำตัวเลขหน้าคำตอบ  มาเติมหน้าข้อคำถามในด้านล่างที่มีความที่สัมพันธ์กัน

คำตอบ
1. ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณประมวลผลข้อมูล
2. e-Revenue
3. เทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
4. มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และ Decoder
5. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย
6. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
7. โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์
8. โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
9. CAI
10. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

คำถาม 
…8… ซอฟต์แวร์ประยุกต์
…3… Information Technology
…1… คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล
 …6…เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย
 …10…ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
…7…ซอฟต์แวร์ระบบ
…9… การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมีเดียที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตามระดับความสามารถ
…5… EDI
 …4… การสื่อสารโทรคมนาคม
…2… บริการชำระภาษีออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัด บทที่ 3 การรู้สารสนเทศ

แบบฝึกหัด บทที่ 3 การรู้สารสนเทศ                                                                       กลุ่มที่เรียน  1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                     รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ -สกุล น.ส.ศิวาพร  ชมภูทัศน์                                                              รหัส 57010912583

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สารสนเทศ
ก. ความสามารถในการกลั่นกลอง และประเมินค่าสารสนเทศที่หามาได้
ข. ความสามารถในการตัดสินใจใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ
ค. ความสามารถของบุคคลในการสืบค้นและพัฒนาสารสนเทศ
ง. ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิน และใช้งานสารสนเทศ

ตอบ ง.

2. จากกระบวนการของการรู้สารสนเทศ ทั้ง 5 ประการ ประการไหนสำคัญที่สุด
ก. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
ข. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
ค. ความสามารถในการประมวลผลสารสนเทศ
ง. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ ง.

3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
ก. สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
ข. สามารถใช้สารสนเทศในการดำเนินชีวิต
ค. ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกม
ง. ใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาสารสนเทศได้

ตอบ ค.

4.ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
1. โลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเน้นวัตถุนิยมมากขึ้น
2. ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
3. สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
4. ช่วยบุคคลเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ตอบ ค.

5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
     1. ความสามารถในการประมวลสารสนเทศ
     2. ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
     3. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
     4. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
     5. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
ก. 1-2-3-4-5          
ข. 2-4-5-3-1           ค. 5-4-1-2-3             ง. 4-3-5-1-2
ตอบ ง.

แบบฝึกหัด บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม


แบบฝึกหัด บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม                                                       กลุ่มที่เรียน  1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                      รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ -สกุล น.ส.ศิวาพร  ชมภูทัศน์                                                               รหัส 57010912583

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีที่ให้บริการต่างๆ ตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละ 3 รายการ

1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เช่น การนำเอาคำอธิบายบทเรียนมาบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ แล้วนำบทเรียนนั้นมาแสดงแก่ผู้เรียน
การใช้งานในห้องสมุด เช่น การค้นหาหนังสือ การจัดหนังสือ
การใช้ในงานประจำและงานบริหาร เช่น การจัดทำทะเบียนประวัตินักเรียนนักศึกษา การเลือกเรียน การลงทะเบียนเรียน การแนะแนวอาชีพ และการศึกษาต่อ ข้อมูลผู้ปกครองหรือข้อมูลของครู
1.2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสารมวลชน
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการบริการการสื่อสาร ได้แก่
การบริการโทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี
ด้านมัลติมีเดีย ด้านกราฟฟิก โปรแกรมต่าง ๆ ซรอฟแวร์ ระบบวิเคราะห์ภาพ เสียง
ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิตอล (ISDN) เป็นต้น1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการบริการการสื่อสาร ได้แก่
การบริการโทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี
ด้านมัลติมีเดีย ด้านกราฟฟิก โปรแกรมต่าง ๆ ซรอฟแวร์ ระบบวิเคราะห์ภาพ เสียง
ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิตอล (ISDN) เป็นต้น1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (Hospital Information System : HIS) เป็นระบบที่ช่วยด้าน Patient record หรือเวชระเบียน ระบบข้อมูลยา การรักษาพยาบาล การคิดเงินระบบสาธารณะสุข ใช้ในการดูแลป้องกันโรคระบาดในท้องถิ่น เช่น เมื่อมีผู้ป่วยอหิวาตกโรคในหมู่บ้าน แพทย์อาจตรวจค้นได้ว่าผู้ป่วยมาจากตำบลอะไร มีประชากรกี่คน เป็นชาย หญิง เด็กเท่าไรเพื่อที่จะได้จัดหาวัคซีนไปฉีดป้องกันได้ทันทีระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System) เป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์วินิจฉัยโรค หลักการที่ใช้คือ เก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ให้ระเอียด แล้วใช้หลักปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence : AL มาช่วยวิเคราะห์ เป็นแนวความคิดทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เหมือนคน
1.6 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทหารตำรวจ
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางทหารมีการใช้เทคโนโลยี มีระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานเทคโนโลยีสารสนเทศในวงการตำรวจ นำเทคโนโลยีสารเทศเข้ามาใช้งานมากมาย หลากหลายรูปแบบหลายระบบ เพื่อช่วยในการสืบสวน ติดตาม จับกุมคนร้าย เช่น ระบบ สารสนเทศ Polis,ระบบสารสนเทศของกองพิสูจน์หลักฐาน ,กองทะเบียนประวัติอาชญากรรม,ระบบปฏิบัติการ C3I ของตำรวจนครบาลและระบบ e–cop เป็นต้นใช้เครื่องมือการตรวจวัดแอลกอฮอล์
1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
-http://www.coe.or.th/e_engineers/coeindex.php เว็บสภาวิศวกรรม
-http://www.ceat.or.th/2010/index.php เว็บสมาคมวิศวกรรมปรึกษาแห่งประเทศไทย
-http://www.civilclub.net/ เว็บรวบรวมข้อมูลต่างๆเกียวกับวิศวกรรม
1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพด้านเกษตรกรรม
ใช้ไอทีเป็นสื่อ(Media)ในการสื่อสารเผยแพร่ความรู้ด้านการเกษตรนอกเหนือจากสื่ออื่น ๆ
จัดทำโปรแกรมเพื่ออำนวยประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
ประยุกต์ใช้ไอทีในการสืบค้นข้อมูลข่าวสารความรู้ด้านการเกษตรจากแหล่งความรู้

1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ
- http://www.healthyability.com/new_version5/ เว็บสร้างเสริมสุขภาพผู้พิการไทย
- http://www.ddc.go.th/ เว็บศูนย์พัฒนาอาชีพผู้พิการ
- http://www.blind.or.th/ เว็บมูลนิธิช่วยคนตาบอลแห่งประเทศไทย
2. มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่าน มีอะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย 3 อย่าง
1) ระบบลงทะเบียนเรียน
2) สำนักวิทยบริการ
3) ระบบ e-learning

3. ข้อ 2 จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง
1) ระบบลงทะเบียนเรียน ใช้ในการลงทะเบียน เช็คตารางเรียน ตารางสอบ
2) สำนักวิทยบริการ ใช้เครื่องที่ให้บริการยืม-คืนหนังสือ สถานที่อ่านหนังสือ และสืบค้นข้อมูลออนไลน์ต่างๆ
3)ระบบ e-learning ได้เข้าเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์ผ่านเครือค่ายอินเตอร์เน็ต เรียนจากที่ใดก็ได้ตามเวลาที่สะดวก และสะดวกในการศึกษาข้อมูล


แบบฝึกหัด บทที่ 1 แนวคิดและแนวโน้มเกี่ยวกับข้อมูลสารสนเทศยุคใหม่


แบบฝึกหัด บทที่ 1 แนวคิดและแนวโน้มเกี่ยวกับข้อมูลสารสนเทศยุคใหม่                    กลุ่มที่เรียน  1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                      รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ -สกุล น.ส.ศิวาพร  ชมภูทัศน์                                                               รหัส 57010912583

จงเติมในช่องว่างว่าข้อใดเป็นข้อมูล หรือสารสนเทศ

1. ข้อมูลหมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ เช่น คน สัตว์  สิ่งของสถานที่ฯลฯ โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผล    ซึ่งข้อมูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชือนักเรียน  เพศ  อายุ เป็นต้น 
2. ข้อมูลปฐมภูมิ คือ สารสนเทศที่ได้มาจากต้นแหล่งโดยตรง เป็นสารสนเทศทางวิชาการ ผลของการศึกษาค้นคว้า วิจัย รายงาน การค้นพบทฤษฎีใหม่ๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ซึ่งนำไปสู่การยอมรับเป็นทฤษฎีใหม่ที่เชื่อถือได้ สารสนเทศประเภทนี้มักจะถูกถ่ายทอดออกมาในลักษณะสิ่งพิมพ์ และการถ่ายทอดสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์
ยกตัวอย่างประกอบ การถ่ายทอดทางสิ่งพิมพ์วารสาร รายงานการวิจัย รายงานการประชุมและสัมมนา วิชาการ และการถ่ายทอดสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น วารสารอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
3. ข้อมูลทุติยภูมิคือ เป็นแหล่งของข้อมูลที่ได้จากรายงาน หรือถ่ายทอดมาจากข้อมูลชั้นต้น หรือนำข้อมูลปฐมภูมิมาสังเคราะห์และเรียบเรียงขึ้นใหม่ เพื่อเสนอข้อคิดหรือแนวโน้มบางประการ ด้วยเหตุนี้ข้อมูลหรือหลักฐานนั้นจึงถูกรายงานโดยผู้ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือเป็นพยานในเหตุการณ์นั้น ผู้เขียนจะรายงานหรือถ่ายทอดในสิ่งที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์พูด หรือเขียน หรือถ่ายทอดในลักษณะต่าง ๆ ไว้ หรืออาจจะถ่ายทอดมาหลายทอดก็ได้  การนำมาใช้ในการวิจัยจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ นอกจากนั้น ข้อมูลที่ได้อาจไม่ทันสมัย ดังนั้นในการค้นหาข้อมูลทุติยภูมิจึงต้องเลือกค้นหาข้อมูลที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ส่วนข้อดีของข้อมูลทุติยภูมิคือ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการค้นหาข้อมูล
ยกตัวอย่างประกอบ หนังสือทั่วไป หนังสือตำรา หนังสือคู่มือการทำงาน รายงานความก้าวหน้าทางวิทยาการ บทคัดย่องานวิจัย บทวิจารณ์หนังสือ วารสารสาระสังเขป เป็นต้น
4. สารสนเทศหมายถึง หนังสือทั่วไป หนังสือตำรา หนังสือคู่มือการทำงาน รายงานความก้าวหน้าทางวิทยาการ บทคัดย่องานวิจัย บทวิจารณ์หนังสือ วารสารสาระสังเขป เป็นต้น
5. จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ การจำแนกประเภทสารสนเทศได้มีการจำแนกออกเป็น  ตามแหล่งสารสนเทศและตามสื่อที่จัดเก็บดังนี้ คือ
        1.สารสนเทศจำแนกตามแหล่งสารสนเทศ เป็นการจำแนกสารสนเทศตามการรวบรวมหรือจักทำกับสารสนเทศ  จำแนกได้ดังนี้
                       1.1แหล่งปฐมภูมิ (Primary Source)
                       1.2แหล่งทุติยภูมิ (Secondary Source)
                       1.3แหล่งตติยภูมิ (Tertiary Source)
        2.สารสนเทศตามแล่งที่จัดเก็บ เป็นการจำแนกสารสนเทศตามชนิดของสื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ได้แก่ กระดาษ วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่อแสง
6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อความรูปภาพเสียงคือ ข้อมูล
7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น ข้อมูลสนเทศหรือสารสนเทศ (Information)
8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคนเป็น ฐานข้อมูลออนไลน์
9. ผลของการลงทะเบียนเป็น ฐานข้อมูลออนไลน์
10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน Sectionวันอังคารเป็น ข้อมูลเชิงปริมาณ